วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561


Anatomy
         กายวิภาคศาตร์ (anatomy) เป็นศาสตร์หรือแขนงของการศึกษาอย่างวิทยาศาสตร์ เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกายของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งตำแหน่งและที่ตั้ง(anatomy เริ่มครั้งแรกในประเทศอียิปต์ ในกลางศตวรรษที่ 4 Hippocrates  ได้สอนวิชานี้ในประเทศกรีก ใน คศ. 384-322 Aristotle เป็นผู้ริเริ่มใช้คำว่า “ anatome”ซึ่งเป็นคำกรีก หมายถึง“cutting up “  เรียกว่า “ชำแหละ”  การชำแหละ (dissection) )
สาขาวิชากายวิภาศาสตร์
MicroscopicAnatomyหมายถึง การศึกษาโครงสร้างของสัตว์และพืช เป็นรายละเอียดขนาดเล็กๆ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
Gross anatomyหมายถึงการศึกษาโครงสร้างของร่างกายด้วยตาเปล่า โดยใช้เครื่องมือชำแหละช่วย
Developmental Anatomyหมายถึงการศึกษา การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่เริ่มการปฏิสนธิ(Fertilized egg) จนถึงตอนที่ร่างกายของมนุษย์เติบโตเต็มที่
Neuroanatomyเป็นการศึกษาเกี่ยวกับระบบประสาท ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและร่วมมือกับอวัยวะหรือโครงสร้างอื่นๆให้ดำเนินไปด้วยดี
คำศัพท์ทางกายวิภาคศาสตร์
  •  Anatomical  positionหมายถึงร่างกายที่อยู่ในท่ายืนตรงตามองไป ข้างหน้าแขนขา ชิดลำตัวหันฝ่ามือไปข้างหน้าล่าง
  • Longitudinalเกี่ยวกับตามความยาวของร่างกาย
  • median planeแบ่งร่างกายในแนวตั้งออกเป็นสองส่วนเท่ากัน หรือสามารถเรียกเป็น midsagittal planeได้ แต่จะมีอีกหนึ่งเพลนที่เป็นแนวขนานกับ median plane แต่ไม่ได้ผ่านตรงกลาง โดยทั่วไปจะเรียกว่า sagittal planeซึ่งแบ่งลำตัวออกเป็นด้านซ้ายขวา
  • frontal/coronal planeแบ่งร่างกายออกเป็นส่วนหน้ากับส่วนหลัง
  • horizontal/transverse/axial planeแบ่งร่างกายออกเป็นส่วนบนและส่วนล่าง



ภาพ:การแบ่งพื้นที่องร่างกาย


ช่องว่างภายในร่างกาย (Body Cavity)
         ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยช่องว่างภายในร่างกาย 2 ช่องหลัก คือช่องว่างทางด้านหลัง (dorsal cavity)  และช่องว่างทางด้านหน้า (ventral cavity) ช่องว่างของร่างกายเปรียบเสมือนเกราะที่ป้องกันอวัยวะภายใน   โดย  dorsal cavity  ประกอบไปด้วยสมอง ไขสันหลัง ส่วน ventral cavity จะประกอบไปด้วยอวัยวะภายในช่องอก  ช่องท้อง และอุ้งเชิงกราน
ช่องว่างทางด้านหน้า (ventral cavity)
ช่องว่างทางด้านหน้าเป็นช่องว่างในส่วนของลำตัวซึ่งอยู่หน้าต่อกระดูกสันหลัง และหลังต่อกระดูกหน้าอก (sternum) และกล้ามเนื้อที่ประกอบเป็นผนังหน้าท้อง  ประกอบด้วย 2 ช่องคือช่องอก (thoracic cavity) และช่องท้องและเชิงกราน (abdominalpelvic cavity) 


1.ช่องอก (thoracic cavity)

ช่องอก ประกอบไปด้วย หัวใจ ปอด หลอดลม กล่องเสียง หลอดอาหาร  ต่อมไธมัส และเส้นเลือดใหญ่จำนวนมาก ผนังของช่องอกคือกล้ามเนื้อและกระดูก ในช่องอกประกอบด้วยช่องย่อยๆ คือช่องรอบหัวใจ (pericardial cavity) ภายในช่องนี้เป็นหัวใจ    และช่องปอด (pleural cavity) ซึ่งมีซ้ายขวา ภายในช่องนี้เป็นปอด  ส่วนช่องตรงกลางของช่องอก เรียกว่า mediastinum ภายในบรรจุด้วย หัวใจ เส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจ  ต่อมไธมัส   หลอดลม และหลอดอาหาร  โดยปอดจะอยู่ด้านนอก mediastinum

2.ช่องท้องและเชิงกราน (abdominalpelvic cavity) 

ช่องท้องและเชิงกราน แยกออกจากช่องอกโดยกะบังลม โดยประกอบไปด้วยช่องท้อง (abdominal cavity)  และช่องเชิงกราน (pelvic cavity)   ภายในช่องท้องประกอบด้วยอวัยวะของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ตับ ถุงน้ำดี  กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ไต ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่  ส่วนช่องเชิงกราน ประกอบด้วยอวัยวะภายในของระบบสืบพันธุ์  บางส่วนของลำไส้ใหญ่  ไส้ตรง และกระเพาะปัสสาวะ

ช่องว่างทางด้านหลัง (dorsal cavity)
ช่องว่างร่างกายทางด้านหลังประกอบไปด้วยระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลัง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่องย่อย คือ cranial cavity ซึ่งเป็นช่องว่างภายในกะโหลกศีรษะ ภายในช่องนี้บรรจุด้วยสมอง    และ spinal cavity เป็นช่องภายในกระดูกสันหลัง ภายในช่องนี้บรรจุด้วยไขสันหลัง
อ้างอิง




Anatomy          กายวิภาคศาตร์ (anatomy) เป็นศาสตร์หรือแขนงของการศึกษาอย่างวิทยาศาสตร์ เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย...